วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

เทคนิคการปัดแก้มให้สวยใส

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



เทคนิคการปัดแก้มให้สวยใส


เทคนิคการปัดแก้มให้สวยใส


แก้มเยอะ

เริ่มจากหาตำแหน่งโหนกแก้มโดยการยิ้ม แล้วปัดบลัชออนบริเวณจุดสูงสุดของโหนกแก้มไล่เฉียงขึ้นไปถึงแนวขมับ แล้วปัดเฉดดิ้งจากข้างใบหูไล่มาตามแนวใต้กระดูกแก้ม เพื่อให้หน้าแลดูตอบลง


แก้มตอบ

บลัชออนเนื้อครีมหรือแบบผสมกลิตเตอร์เหมาะกับสาวแก้มตอบที่สุด เพราะความแวววาวจะทำให้แก้มดูมีเนื้อขึ้นเวลาโดนแสง ปัดเป็นวงกลมโดยเน้นให้สีเข้มที่สุดบริเวณโหนกแก้ม แล้วค่อยๆเกลี่ยสีให้กระจายออกไปยังไรผม

Tip

จริงๆไม่ควรใช้บลัชออนที่มีความแวววาว เพราะจะทำให้เนื้อแก้มดูมากขึ้น แต่เทรนด์ช่วงนี้เหมาะกับแก้มฉ่ำๆ ดังนั้นแนะนำให้ปัดบลัชออนตามสูตร แล้วเติมบลัชออนเนื้อวาวเฉพาะโหนกแก้มด้านบนเล็กน้อยก็พอ


Text yainoon
PhotoGAB
Make – up ทศพล สนั่นวงศ์
Hair Stylist กำไร โอฬารฤทธิ์
Model นิศารัตน์ อภิรดี


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


รองเท้า สวยคู่ใจ ใช่ว่าจะแค่สวย

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



รองเท้า สวยคู่ใจ ใช่ว่าจะแค่สวย


รองเท้า สวยคู่ใจ ใช่ว่าจะแค่สวย



รองเท้าสวยๆใครๆก็อยากได้ แต่สวยๆอย่างนี้ต้องสวมแล้วสุขภาพดีด้วยค่ะ เพราะถ้าคุณเลือกผิดเท้าคุณก็อาจมีปัญหาได้ เรื่องใหญ่ทีเดียวค่ะ อย่างที่บอกเหมือนไม่สำคัญใช่ว่าสวมๆแล้วก็ดูสวย (แต่ทรมานเหลือเกิน) อย่างนี้ก็ไม่ไหวนะคะ แล้วอีกอย่างหนึ่งรองเท้ายังบ่งบอกถึงนิสัยส่วนตัวในเรื่องการเดินของผู้สวมใส่ ว่าเป็นการสร้างเสน่ห์หรือทำลายเสน่ห์บัคลิกภาพที่ดีได้โดยไม่รุ้ตัว ฉะนั้นวันนี้เรามารู้จักรองเท้ากันว่ารองเท้ามีกี่แบบ ใส่กับเสื้อผ้าแบบไหน รูปร่างอย่างไรสวมรองเท้าแล้วเพิ่มเสน่ห์ สวมใส่แล้วต้องสบายไม่เสียสุขภาพด้วย

โอกาสของการสวมใส่รองเท้ามี 3โอกาส ใส่ทำงาน ออกงานสังคม อเนกประสงค์



รองเท้าคัตชู(Court Shoes)

เป็นรองเท้าสวมที่เรียบร้อย ปิดหัว ดูสุภาพ เหมาะสำหรับงานที่เป็นทางการ หรือบางครั้งอยากจะแต่งให้ดูเก๋แบบมีสไตล์ ก็สามารถ Mix&Match กับเสื้อผ้าได้หลากหลายสไตล์ เช่น ถ้าเป็นชุดทำงานเก๋ๆชุดติดกันสีน้ำตาลทอง คอเชิ๊ตเปิดกระดุม แขนเชิ๊ต ทรงเข้ารูป กระโปรงทรงตรงยาวคลุมเข่า ผ้าลูกฟูกเนื้อไม่หนามาก มีลายริ้วเล็กๆในตัว ใส่ได้รูปทรงดี เข็มขัดสีทองเส้นเล็ก อาจจะเป็นหนังหรือโลหะก็แล้วแต่ชอบ ใส่กับรองเท้าคัตชูสีน้ำตาลเข้ม ทรงหัวแหลมเล็กน้อย ไม่ค่อยสูงใส่แล้วรับรองว่ามีเสน่ห์ชวนมองทีเดียว


แต่ถ้าเป็นเสื้อผ้าชุดอเนกประสงค์ อาจจะเป็นเสื้อตัว กางเกงตัว เสื้อตัว กระโปรงตัว หรืออาจจะมีเสื้อคลุมอยู่ที่การใช้สีให้เหมาะสมกันและรูปแบบด้วย เช่น เสื้อสีม่วงเม็ดมะปรางกับกระโปรงทรงบานย้วย มีดีไซน์เก๋ สีเทาเข้ม เครื่องประดับเป็นโลหะสีนาคลงทองดำ ทั้งต่างหูและสร้อยคอ ข้อมือ ทั้งชุด เข็มขัดหนังสีครีมไข่ รองเท้าคัตชูสีครีมไข่มีลายพิมพ์ หนังไม่เรียบ กระเป๋าสีทองเงาเก๋ๆมีลวดลายไทยๆ สีกลมกลืน แค่นี้ก็ดูมีรสนิยมมีสไตน์เฉพาะตัวแล้วค่ะ เหมาะกับคนรูปร่างเล็ก มีสัดส่วนท่อนบนใหญ่ (มีหน้าอกแยะ)ช่วงล่างเล็ก รับรองว่าใส่แล้วดูเก๋น่ารัก ไม่น่าเบื่อค่ะ รองเท้าแบบมีสายรัดข้อเท้าแบบเรียบๆหรือแบบที่มีดีไซน์เก๋ที่พันรอบข้อเท้า เหมาะสำหรับใส่ออกงานมากกว่า


ถ้าใส่ทำงานแบบเรียบๆและแบบมีสายรัดข้อเท้าพันหลายรอบ แบบนี้ไม่เหมาะกับทำงานใส่ออกงานจะดูเซ็กซี่กว่า ถ้าเป็นชุดออกงานคอกว้างปาด (ลึกเห็นเนินอก สวย)แขนกุด ทรงเข้ารูป กระโปรงสั้นบานย้วย ยาวเหนือเข่าเล็กน้อย ลายดอกไม้ สีสดใส สีฟ้าใส ลายดอกไม้ส้มเหลือง เขียวใบไม้อ่อนๆ ใส่กับรองเท้าที่พันรอบข้อเท้าหลายๆรอบ สีส้มสดหรือสีเทาเงินๆ กระเป๋าสีฟ้าใส เครื่องประดับทองคำขาวเงา หรืออาจจะเป็นเครื่องประดับหนังเงา เนื้อหนังเรียบ ก็จะดูเซ็กซี่ไม่น้อยเลยทีเดียว เหมาะสำหรับคนรูปร่างท้วม อวบเล็กน้อย มีสัดส่วนครบแต่ไม่อ้วน ข้อเท้าไม่ใหญ่ ช่วงขายาวสมส่วน สวยครบเซ็ตขนาดนี้ไม่น่ามองก็ให้รู้ไปค่ะ



รองเท้าบู๊ต (Boot)

มีบู๊ตแบบสั้นแค่ข้อเท้า แบบยาวครึ่งน่อง เหมาะสำหรับใส่เสื้อผ้าลุยๆ แบบทะมัดทะแมง ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ทำรองเท้า ถ้าเป็นหนังใส่กับเสื้อผ้าแนวแฟชั่นใหม่ๆ เช่น ใช้ผ้าฝ้ายเนื้อหนาปานกลาง สีผ้าดิบขาวมีลายปัก ลายสัตย์ ดูเก่าแบบเซอร์ๆ ผ้าดูยับๆ เครื่องประดับเป็นลูกปัดไม้ สีไม้ธรรมชาติ รองเท้าบู๊ตสีน้ำตาลดำ เท่ระเบิดไปเลยแต่ถ้าเป็นผ้าซาตินเงาสวยเก๋ อาจจะใส่เสื้อผ้าแนววินเทจย้อนยุค ลายกราฟฟิก หรือลายดอกไม้ให้ดูเบลอๆ ก็จะทำให้ดูดีและสามารถชุบชีวิตชุดเก่าให้ดูแปลกตา น่าสนใจแน่ค่ะ เหมาะสำหรับคนรูปร่างมีสัดส่วนพอดีเล็กน้อย อาจจะเป็นคนตัวสั้นขายาว ก็แก้ไขได้ไม่แพ้กันค่ะ



รองเท้าแตะ(Sandal)

แบบสีสันสดใสราคาถูกมากก็ตาม ราคาคือคุณภาพ มีทั้งแบบมีส้น และแบบไม่มีส้น ถ้ามีส้นให้ใส่กับเสื้อผ้าแนวผู้หญิงเก๋ๆ ดูมีสไตล์ อาจจะดูคุณนายๆ ก็จะดูดีมากกว่า แต่อย่าสูงมาก เพราะสวมใส่ทำงานเดินไม่คล่องตัว เอาไว้ใส่วันหยุดจะดีกว่า บางครั้งเวลาเดินจะได้คล่องตัวมากขึ้น ใส่ไปออกงานกลางวัน ชุดติดกันสีอ่อนชมพูใส ลายดอกไม้เล็กๆสีม่วงผ้าฝ้ายเนื้อบางยับๆ ปกบัวกุ๊นดอกไม้น่ารักๆ เสื้อทรงพอดีตัว กระโปรงทรงบานรูดยาวคลุมเข่าต่อลูกไม้ชายกระโปรง เหมาะสำหรับคนรูปร่างช่วงขาสั้น สะโพกใหญ่ใส่แล้วสุดจะดูเซ็กซี่เลยทีเดียว



รองเท้าส้นเข็ม (High Heel)

ใส่ออกงานได้เลย หรูเลิศ ชุดดำกำมะหยี่ ทรงเข้ารูปยาวตรง ผ่าข้างหน้า ขายาวกลอมเท้า เครื่องประดับเพชรชุดใหญ่ รองเท้าส้นเข็มล้อมเพชร เหมาะสำหรับคนรูปร่างสมส่วนมาตรฐาน ได้รูปทรงดี สวยเสริมเสน่ห์



รองเท้าส้นหนาเหมือนเตารีด

ใส่แล้วสวยยาก แต่อยากใส่ให้สวยเซ็กซี่ด้วยรองเท้า ไม่น่าเชื่อ แต่ถ้าอยากใส่มาก หาเสื้อกับกางเกงขาบานๆ ใส่ส้นหนาๆได้ แต่ไม่ให้เห็นส้นรองเท้าเห็นได้เล็กน้อยก็พอจะใส่ได้แต่ถ้าอยากโชว์รองเท้าให้ใส่กระโปรง หรือกางเกงขาสั้นสามหรือสี่ส่วน หรือเหนือเข่าไปเลยแต่ขอต้องเล็ก



รองเท้าส้นเตี้ยติดพื้นแบบสปอร์ต

เป็นรองเท้าผ้าใบ เป็นหนัง หรือผ้า หรือวัสดุอื่นๆ อยุ่ที่สัดส่วนความยาวของเสื้อผ้า และเนื้อผ้าใส่ให้ดูทะมัดทะแมง เสื้อยืดกางเกงยีนส์ เสื้อคลุมผ้าลูกฟูก สีสันตัดกันได้เลยอยู่ที่อารมณ์จะพาไป เหมาะกับทุกรูปร่างเพราะไม่ยึดติดกับโอกาส สวย เท่ สมใจ

เท้ากับรองเท้าเป็นของคู่กัน ฉะนั้น เท้าสำคัญมาก ต้องสะอาด และสวยและหอม ไม่แตก(ส้นแตก)เสน่ห์อยู่ตรงนี้แหละค่ะ บอกนิสัยได้อย่างชัดเจน สวยหอมสุขภาพดี ใส่รองเท้าสวยและสบายเท้า สุขภาพจิตดีแค่นี้ก็น่าจะมีความสุข
เป็นอย่างไรบ้างค่ะ เรื่องราวของรองเท้า น่าสนุกไม่ใช่เล่นเลยทีเดียวใช่ไหมคะ ขอให้มีความสุขและสนุกกับการใช้รองเท้าให้ถูกวิธีกับชุดสวยๆของคุณนะคะ






ขอขอบคุณ

นิตยสาร STAR FASHION Vol.184
คอลัมน์ Style Concept
By: อ.ธัญนันท์ แดงเดช จากสถาบันตักส์ศิลา แฟชั้น
หน้า 150-151


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

แต่งหน้าโทนสีตามวันเกิด Part 2

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



แต่งหน้าโทนสีตามวันเกิด Part 2


Birthday Color Astrology

Part 2



Thursday

* สาวสุขภาพดีจะต้องมีคิ้วเงางามและเรียงเส้นสวยงาม เพียงใช้แปรงหัวตัดแต้มเจลสำหรับแต่งคิ้วสีน้ำตาลทองปัดคิ้วให้เรียงไปในทิศทางเดียวกัน
* ใช้แปรงหัวเล็กแต้มอายแชโดว์สีฟ้าอ่อนเขียนเฉพาะขอบตา แล้วเขียนทับด้วยดินสอเขียนขอบตาสีฟ้า โดยเขียนชิดขอบตาบนให้เส้นหนากว่าปกติ
* ลงอายแชว์สีฟ้าครามที่ขอบตาล่างให้ด้านปลายหางตาใหญ่กว่าหัวตาเพียงเล็กน้อย
* ลงลิปกลอสสีแดงอมชมพูให้ทั่วริมฝีปาก แล้วเพิ่มความเงายิ่งขึ้นด้วยการลงทับอีกครั้งบริเวณกึ่งกลางริมฝีปากล่าง


Tip
เจลแต่งคิ้วควรปัดย้อนแนวขนคิ้วก่อนเพื่อให้เนื้อเจลเกาะได้ทั่วทุกเส้น จากนั้นค่อยปัดกลับมาในทางปกติและจัดเส้นให้เรียงไปในทิศทางเดียวกัน


Laura Mercier: Kohl Eye Pencil # Black Navy (750.-)
Laura Mercier: Eye Colour Quads # Blue Sky (1,500.-)
Laura Mercier: Brow Definer # Fair Blond (875.-)
Laura Mercier: Brow Definer Brush (1,100.-)
Laura Mercier: Lip Stain # Scarlet (850.-)





Friday


* ไล้อายแชโดว์สีเหลืองสดเพียงสีเดียวให้ทั่วเปลือกตา แต่เน้นน้ำหนักสีให้ช่วงกระบอกตาและหางตาเข้มกว่าส่วนอื่น
* ลงอายไลเนอร์สีดำชิดขอบตาบนและล่างให้ดวงตาดูเด่นชัดขึ้น แล้วค่อยปัดมาสคาราเฉพาะขนตาบน
* ใช้บลัชออนสีส้มปัดบริเวณโหนกแก้ม จากนั้นใช้ชิมเมอร์ปัดที่โหนกแก้มด้านบนอีกครั้ง หน้าจะได้ดูมีมิติขึ้น
* ทาลิปสติกสีแดงอมชมพูให้ทั่วแล้วเน้นอีกครั้งที่กึ่งกลางริมฝีปาก สุดท้ายใช้กลอสสีทองทับอีกครั้งให้ปากมีประกาย


Tip
อยากจะไปปาร์ตี้ตอนกลางคืนต่อ ลองใช้ชิมเมอร์แบบที่ปัดโหนกแก้มมาแต้มบริเวณกลางเปลือกตาและโหนกคิ้ว แค่นี้ก็หรูขึ้นเป็นกอง

RMK: Mixed Colors for Eyes # 06
RMK: Ingenious Liquid Eyeliner N # 01
RMK: Ingenious Cheeks # 31 or Holographic Cheeks # 04
RMK: Beigy Mix Cheeks # 03
RMK: Mix Colors for Lips # 02 or Irresistible Lips C # 01






Saturday


* ไล้บลัชออนสีน้ำตาลอ่อนให้ทั่วเปลือกตา แล้วใช้สีน้ำตาลเข้มไล้ให้ชิดขอบตาบนเพื่อเพิ่มมิติ จากนั้นใช้สีทองแต้มหัวตาให้ดูสว่าง
* กรีดอายไลเนอร์สีน้ำตาลบรอนซ์เข้มที่ขอบตาบนและล่าง
* ใช้บลัชออนชนิดครีมสีชมพูอมส้มเกลี่ยบริเวณพวงแก้ม นอกจากให้สีเป็นธรรมชาติแล้วยังดูฉ่ำกว่าบลัชออนชนิดอื่นอีกด้วย
* ปากดูแวววาวด้วยลิปกลอสสีชมพูกลิ่นหอมหวาน ไปพูดเจรจาที่ไหนจะได้ราบรื่นสมหวัง


Tip
ลองใช้แปรงปลายแบนสำหรับทารองพื้นกับบลัชออนชนิดครีมดู นอกจากจะเกลี่ยสีได้ดีแล้วยังช่วยประหยัดเนื้อครีมกว่าการใช้นิ้วเกลี่ยอีกต่างหาก


Bobbi Brown: Shimmer Brick Compact # Beige (1,900.-)
Bobbi Brown: Pot Rouge for Lips & Cheeks # (1,200.-)
Bobbi Brown: Pink Blossom Lip Gloss (800.-)
Bobbi Brown: Deluxe Mini Brush Set (7,500.-)
Bobbi Brown: Long Wear Gel Eyeliner # Bronze Shimmer (875.-)


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


ดูแลผมให้ยาวเร็วขึ้น

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



ดูแลผมให้ยาวเร็วขึ้น


ดูแลผมให้ยาวเร็วขึ้น

ใครที่ผมสั้น แล้วอยากให้ผมเร็ว ๆ วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีดูแลให้ผมยาวเร็วขึ้นมาฝากกัน…



ขั้นตอน

1. สระผมและนวดผมให้เรียบร้อย ใช้ผ้าขนหนูค่อย ๆ ซับผม อย่าขยี้ผมเด็ดขาด โดยเฉลี่ยแล้วผมคนเราจะยาวประมาณครึ่งนิ้วต่อเดือน
2. ดังนั้นถ้าอยากให้ผมยาวเร็วขึ้น แสกผมไว้ซัก 5-6 แถว บีบวิตามิน อี แบบแคปซูลสำหรับทาหน้า นำมาทาตามรอยแสก นวดบำรุงให้ทั่วหนังศรีษะ ผมจะยาวเร็วขึ้น
3. อย่าลืมที่จะทำทรีทเม้นท์สัปดาห์ละครั้ง เพราะจะทำให้มีสุขภาพผมที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน





การทำทรีทเม้นท์หมักผมแบบธรรมชาติ

1. บดกล้วยหอมผสมกับน้ำผึ้ง พอกให้ทั่วทั้งศรีษะ ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก
2. อีกสูตรหนึ่ง คือ คั้นดอกอันชัญสดกับน้ำสะอาด จนได้น้ำอันชัญสีน้ำเงินอมม่วง หมักผมทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้จะทำให้ผมดูดกดำเงางาม
3. ถ้าเป็นคนผมแห้ง ต้องการให้ผมดูเงางาม ใช้แฮร์โค้ต 2-3 หยด ชโลมและนวดให้ทั่วศรีษะ แต่ถ้าเป็นคนผมมัน ไม่ควรทำวิธีนี้



ที่มาจากหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

เคล็ดลับหน้าอกชูชัน

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



เคล็ดลับหน้าอกชูชัน


สารพันความงาม-สาวอยากตูม ตูม มารุมทางนี้



เคล็ดลับหน้าอกชูชันบัวบาน บัวตูม บูม บูม ยังมีต่ออีกนิดจ้ะคุณสาวๆ อาบน้ำก็แล้ว กินอาหารก็แล้ว คราวนี้มาว่าด้วยการนวดกันบ้างนะจ๊ะ


ถ้าเรานวดเบาๆบริเวณหน้าอกด้วยน้ำมันหรือครีมทาตัวเป็นประจำ หน้าอกจะสามารถกระชับขึ้นได้ ท่านวดที่ได้ผล คือวางมือซ้ายไว้หลังคอ หรือหัวไหล่ ยกข้อศอกขึ้น นวดรอบอกโดยใช้ปลายนิ้วคลึงเบาๆ เป็นวงกลม กำหนดลมหายใจไปด้วยอย่าลืมสลับข้างล่ะคะ คุณสาวๆ


ขอขอบคุณ ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


สวยสง่าอย่างไทย ด้วยชุดไทยพระราชนิยม

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



สวยสง่าอย่างไทย ด้วยชุดไทยพระราชนิยม


ชุดไทยพระราชนิยมถือกำเนิดขึ้นจากแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เพื่อต้องการให้สาวไทยมีชุดประจำชาติที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ต่างจากชาติอื่นๆ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ค้นคว้าเครื่องแต่งกายสมัยต่างๆ จากพระฉายาลักษณ์ของเจ้านายฝ่ายใน แล้วนำมาประมวลเข้ากับข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ พัฒนารูปแบบการตัดเย็บให้ทันสมัยขึ้น จากนั้นพระราชทานให้ผู้ใกล้ชิดแต่งเพื่อเผยแพร่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น



ปัจจุบันชุดไทยพระราชนิยมเป็นที่นิยมของบรรดาเจ้าสาวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าสาวที่ประกอบพิธีแต่งงานแบบไทย ซึ่งคุณเจ้าสาวสามารถเลือกสวยได้ตามใจจากชุดทั้ง 8 แบบดังต่อไปนี้



ชุดไทยเรือนต้น

ชุดนี้ตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมที่มีลายริ้วตามขวางหรือตามยาว หรืออาจใช้ผ้าเกลี้ยงแบบมีเชิง ผ้าซิ่นควรยาวจรดข้อเท้า ป้ายด้านหน้า ตัวเสื้อแยกชิ้นกับผ้าซิ่น ตัดเย็บโดยใช้ผ้าสีตามริ้วหรือเชิงซิ่น เลือกโทนสีเดียวกันหรือตัดกับสีผ้าซิ่นก็ได้ แขนเสื้อเป็นแบบสามส่วน ด้านหน้าผ่า มีกระดุม 5 เม็ด คอเสื้อกลมตื้นไม่มีขอบตั้ง

เลือกใช้เครื่องประดับเป็นเครื่องทองหรือเครื่องเพชรแบบฝรั่งก็ได้ ไม่ควรคาดเข็มขัด ชุดนี้เหมาะกับงานแบบลำลอง เช่น การตักบาตรในช่วงเช้า







ชุดไทยบรมพิมาน



นิยมใช้ผ้ายกไหมหรือผ้ายกทองแบบมีเชิง หรือผ้ายกทองทั้งตัวในการตัดเย็บ ซิ่นมีจีบข้างหน้ามีชายพก ความยาวจรดข้อเท้า ตัวเสื้อเข้ารูปแขนกระบอก คอตั้งติดคอ ผ่าหลัง เสื้ออาจจะเย็บติดกับซิ่นหรือเป็นคนละชิ้นก็ได้



ชุดนี้ต้องคาดเข็มขัด ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เหมาะสำหรับงานพิธีที่เป็นทางการ เช่น การเข้ารับพระราชทานสมรส















ชุดไทยจิตรลดา





ชุดนี้นิยมตัดเย็บโดยใช้ผ้าไหมเกลี้ยงแบบมีเชิง หรืออาจใช้ผ้าทอยกดอกทั้งตัวก็สวยงามไปอีกแบบ ผ้าซิ่นเป็นแบบป้ายหน้า ยาวจรดข้อเท้า ตัวเสื้อแยกชิ้นกับผ้าซิ่น ตัดเย็บโดยใช้ผ้าสีพื้นเข้ากับสีซิ่น แขนเสื้อเป็นแบบแขนกระบอก ผ่าอก มีกระดุม 5 เม็ด ลักษณะทั่วไปคล้ายกับชุดไทยเรือนต้น แต่ต่างกันตรงคอเสื้อที่มีขอบตั้ง



เลือกใช้เครื่องประดับน้อยชิ้น อาจใช้เพียงต่างหูและสร้อยคอ ไม่ต้องคาดเข็มขัด ไม่นิยมประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชุดนี้เหมาะกับงานพิธีที่ค่อนข้างเป็นทางการ











ชุดไทยจักรพรรดิ

ชุดนี้เป็นชุดของสตรีสูงศักดิ์ในสมัยโบราณ ปัจจุบันใช้เป็นชุดเจ้าสาวสำหรับงานกลางคืน มีลักษณะคล้ายกับชุดไทยจักรีแต่หรูหราและมีพีธีรีตองมากกว่า ห่มสไบแพรทึบสีตัดกับซิ่นชั้นหนึ่งก่อนแล้วจึงห่มทับด้วยสไบจับจีบปักดิ้นทองสวยงาม ซิ่นตัดเย็บจากผ้าไหมหรือผ้ายกทองแบบมีเชิง จับจีบด้านหน้า มีชายพก เลือกใช้เครื่องทองหรือเครื่องเพชรตามความเหมาะสม ต้องคาดเข็มขัด











ชุดไทยจักรี



ชุดนี้ห่มด้วยสไบผ้าไหมแบบมีชายเดียว ปักดิ้นทองหรือไม่ปักก็ได้ ชายสไบคลุมไหล่ด้านซ้าย ทิ้งชายด้านหลัง ยาวตามสมควร จะเย็บติดกับซิ่นเป็นท่อนเดียวกันหรือจะห่มสไบต่างหากก็ได้













ชุดไทยศิวาลัย

เป็นชุดของหญิงสาวบรรดาศักดิ์ในสมัยโบราณ มีลักษณะเหมือนกับชุดไทยบรมพิมานแต่ห่มสไบทับ โดยใช้สไบปักลายแบบชุดไทยจักรพรรดิ แต่ไม่ต้องมีสไบแพรรองพื้นก่อน ตัวเสื้อตัดเย็บโดยใช้ผ้าไหมสีทองหรือสีงาช้าง แขนยาว คอกลมมีขอบตั้ง ผ่าหลัง ซิ่นตัดเย็บด้วยผ้าไหมยกดิ้นทองยาวคลุมข้อเท้า มีจีบด้านหน้า มีชายพก



เลือกสวมเครื่องประดับเป็น สร้อยคอ รัดแขน สร้อยข้อมือ คาดเข็มขัด ชุดนี้เหมาะกับงานพิธีการเต็มยศ หรืองานฉลองสมรสช่วงค่ำ











ชุดไทยอมรินทร์

ชุดนี้แบบเหมือนกับชุดไทยจิตรลดา ต่างกันตรงที่ใช้ผ้าที่หรูหรากว่าในการตัดเย็บ นิยมใช้ผ้าไหมที่มีทองแซมหรือผ้ายกทองทั้งตัว ตัวเสื้อคนละชิ้นกับซิ่น



เลือกใช้เครื่องประดับเป็นเครื่องทองหรูหรา หากใช้ในงานพิธีต้องประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ไม่ต้องคาดเข็มขัด ชุดนี้เหมาะกับงานพิธีตอนค่ำ











ชุดไทยดุสิต

ตัวเสื้อเป็นแบบเข้ารูป คอปาด ไม่มีแขน ผ่าด้านหลัง ปักประดับเป็นลายทั่วตัวด้วยไข่มุกหรือลูกปัด ตัวเสื้ออาจเย็บติดหรือแยกคนละท่อนกับซิ่นก็ได้ ซิ่นตัดเย็บด้วยผ้ายกไหม ผ้ายกทองหรือผ้ายกเงิน จับจีบด้านหน้า มีชายพก



เลือกใช้เครื่องประดับแบบไทยหรือแบบตะวันตกตามชอบ ต้องคาดเข็มขัด ชุดนี้นิยมใช้ในงานช่วงค่ำแทนชุดราตรีแบบตะวันตก













We note


สำหรับคุณเจ้าสาวที่เลือกสวมชุดไทยพระราชนิยมในวันแต่งงาน เมื่อได้ชุดเรียบร้อยแล้ว ห้ามนำไปซักแห้งเด็ดขาด เพราะจีบรูด เครป การกลึงลูกไม้ งานปัก แม้จะทำเรียบร้อยแต่ก็ไม่แข็งแรงมาก เมื่อผ่านการซักอาจทำให้ลูกไม้ที่กลึงเบาๆขาด ลูกปัดหลุด ผ้าเหี่ยว หมดสวยก่อนถึงวันงาน
รองเท้าที่เหมาะสมกับชุดไทยทุกชุด คือ รองเท้าหุ้มส้นหัวแหลม สีทอง สีเงิน สีงาช้าง หรือโทนสีอ่อน เช่นสีเบจ สีขาว ซึ่งสีเหล่านี้จะทำให้ดูหรูหราสง่างาม
เครื่องประดับสำหรับชุดไทย ควรเป็นเครื่องประดับทองคำหรือเพชรแท้เพราะจะช่วยเสริมให้ชุดดูสวยงามขึ้นกว่าการสวมเครื่องประดับเลียนแบบ
ผ้ายก คือ ผ้าไหมที่ทอลายในตัว โดยใช้เส้นพุ่งพิเศษเป็นดิ้นเงินดิ้นทอง ทอกันแพร่หลายในภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และภาคใต้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผ้าชนิดนี้ใช้สวมใส่เป็นประเพณีในราชวงศ์สยาม ตั้งแต่สมัยอยุธยาในศตวรรษที่ 14
ผ้ายกทอง คือ ผ้าที่ทอลวดลายให้สูงกว่าพื้นผ้า โดยมีเส้นยืนและเส้นพุ่งขัดสานกันตามปกติ แต่จะมีเส้นพุ่งพิเศษเป็นดิ้นทองระหว่างเส้นยืน ทำให้ปรากฏเป็นลวดลายขึ้นมา ในอดีตผ้ายกทองเป็นผ้าที่บุคคลระดับสูงตั้งแต่ พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์มักใช้ทรงภายในราชสำนักมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยและอยุธยา สำหรับเหล่าขุนนาง จะมีสิทธินุ่งได้ก็ต่อเมื่อได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์เท่านั้น



We recommend
ในการตัดหรือเตรียมชุดไทย เจ้าสาวควรเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างน้อยประมาณหนึ่งอาทิตย์ ในการเลือกชุด ควรพาเจ้าบ่าวไปเลือกด้วย เพราะต้องคำนึงถึงความสูงและโทนสีของชุดเจ้าบ่าว



สถานที่ตัดและเช่าชุดไทยพระราชนิยม
– Fannony Bridal โทร.0-2434-8206 ,0-6800-7878
– Emotion โทร. 0-2938-2671,0-9665-3018


สถานที่จำหน่ายผ้าไหมลายสวย
– ร้านจิตรลดา สาขาพระที่นั่งวิมานเมฆ โทร. 0-2280-1538 สาขาโอเรียลเต็ล โทร.0-2266-0186-9 ต่อ 2031
– ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร โทร.0-3536-6666-7
- ศูนย์ศิลปาชีพ 904 โทร. 0-2243-9192 ต่อ 118
- ธนกิจผ้าไทย จ.สระบุรี โทร.0-3627-5222-5
เอื้อเฟื้อชุดไทยพระราชนิยม Fanony Bridal
ข้อมูลบางส่วนจาก กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี









ขอบคุณบทความจากนิตยสาร we magazine


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


ดูแลเส้นผมให้เงางาม

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



ดูแลเส้นผมให้เงางาม


เรื่องของ “ผม” ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะสาวผมสวยมักจะเป็นจุดดึงดูดจากหนุ่ม ๆ ได้ไม่น้อย ซึ่งวันนี้เราก็มีวิธีรักษาสุขภาพเส้นผมมาฝากกัน



วิธีที่ 1 กันเลย นั่นคือ ขั้นตอนการแปรงผม

ก่อนสระผมทุกครั้ง ควรแปรงขจัดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนเส้นผมออก และสางเส้นผมที่พันกันออกก่อน แต่อย่าแปรงแรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้เส้นผมหักขาด และเสียได้





วิธีที่ 2 การนวดหนังศีรษะ

สำหรับขั้นตอนนี้ เพื่อกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดของหนังศีรษะ และทำให้เส้นผมแข็งแรง คือ การนวดคลึงหนังศีรษะด้วยอุ้งนิ้ว ให้ลักษณะเคลื่อนไปมาในหนังศีรษะจากด้านล่างขึ้นไป วิธีการกดหนังศีรษะ ให้กดเป็นจังหวะ โดยใช้อุ้งนิ้วค่อยๆ กดแล้วคลายออก ทำซ้ำๆ เบาๆ โดยไม่ให้เล็บจิกหนังศีรษะ เพราะจะเป็นการทำลายรากผม ส่วนการเคาะนั้น ค่อยๆ เคาะอุ้งนิ้วลงบนกระหม่อมช้าๆ เป็นจังหวะอย่างเบามือ และทุบเบาๆให้ทั่วหนังศีรษะ





วิธีที่ 3 การเพิ่มความเงางามด้วยน้ำส้มสายชู

หลังการสระผมทุกครั้ง ใช้น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุ่น 3 แก้ว ราดบนเส้นผมของคุณ ใช้หวีสางผมให้ทั่วๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยการใช้น้ำส้มสายชูล้างเส้นผมเป็นน้ำสุดท้าย นอกจากจะเพิ่มความเงางามให้เส้นผมแล้ว ยังแก้ปัญหาผมพันกันได้อีกด้วย





วิธีที่ 4 การล้างผมด้วยน้ำเย็น

เนื่องจากการใช้ความเย็นของน้ำ จะช่วยทำให้ต่อมรากผมปิดตัว และช่วยให้เส้นผมของคุณเงางาม





วิธีที่ 5 การซับผมด้วยผ้าขนหนูเบา ๆ

อย่าใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมแรงๆ เพราะจะทำลายความยืดหยุ่นของเส้นผมคุณ แต่ให้ใช้ปลายนิ้วบีบน้ำบนเส้นผมออก แล้วใช้ผ้าขนหนูซับเบาๆ แล้วปล่อยให้เส้นผมแห้งตามธรรมชาติ



นอกจากเคล็ดลับดีๆ ที่เอามาฝากกัน คุณๆ ก็อย่าลืมบำรุงผมจากภายใน ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อสุขภาพของเส้นผมที่เงางามของคุณเอง



ที่มา : ดาราเดลี่
เดลินิวส์


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

สูตรมาส์คหน้าให้ผิวขาว

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



สูตรมาส์คหน้าให้ผิวขาว


มาส์คนมหน้าขาว
เหมาะมากสำหรับกรณีนี้ค่ะ วิธีทำสะดวกมาก แค่เตรียม ไข่ไก่ (ใช้ทั้งไข่ขาวและไข่แดง) 1 ฟอง, มะนาว 1 ลูก และนมผง 4 ช้อนชา
นำมาคนให้เข้ากัน แล้วทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15 นาทีจนแห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ทำความสะอาดรูขุมขน และนมผงช่วยบำรุงและขัดผิวไปในเวลาเดียวกัน



มาส์คสลัดผสไม้
สูตรนี้เหมาะกับคนที่มีผิวผสมถึงผิวแห้ง จะช่วยให้ผิวนุ่มและกระจ่างใส ด้วยคุณประโยชน์จากวิตามินซี น้ำผึ้ง และโยเกิร์ต


ส่วนผสม
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วย
กล้วย 1/2 ลูก
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
แอปเปิ้ลเขียว 1/4 ลูก (ปอกเปลือกหั่นลูกเต๋า)


วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมดไปปั่นให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น





Column: Look Good & Feel Good No.591 (16 September 2007)

ขอบคุณที่มาจาก สุดสัปดาป์


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


อาบน้ำอย่างไรให้ผิวสวย

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



อาบน้ำอย่างไรให้ผิวสวย


คุณสาวๆที่รู้สึกขยาดกับความเย็นวาบของน้ำเย็นน้ำร้อนน่าจะเป็นคำตอบที่ดีค่ะ เพียงแต่ต้องระวังนิดนึง โดยควรตั้งอุณหภูมิไว่ที่ 38-40 องศาเซลเซียส แต่ไม่ควรนานเกินกว่า 10-15 นาที ซึ่งน้ำร้อนจะทำให้รูขุมขนเปิดกว้าง ดังนั้นหลังจากการอาบน้ำควรทาครีมบำรุงผิวแห้งจากการสูญเสียไขมันขณะอาบน้ำ จากนั้นหากได้จิบชาร้อนๆสักถ้วยยิ่งดีเลยค่ะ


สำหรับสาวๆที่ขี้ร้อน ชอบความสดชื่นเป็นชีวิตจิตใจ เหมาะกับน้ำเย็นมากที่สุด โดยควรให้อุณหภูมิอยู่ที่ 21-27 องศาเซลเซียส ช่วยลดอาการอ่อนเพลียของกล้ามเนื้อและทำให้ผิวพรรรเต่งตึง รวมถึงระบบหายใจอีกด้วย
โดยเริ่มจาการค่อยๆราดน้ำเย็นบนใบหน้า แขนและขา เพื่อให้ร่างกายปรับตัว จากนั้นให้ใช้ฟองน้ำขัดเบาๆค่ะ ขั้นตอนสุดท้ายอย่าลืมใช้ฝ่ามือตบเบาๆทั้งตัวเพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวหนังและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ


เคล็ดลับ 3 ขั้นตอนสู่ผิวสวย

1. ปัดถูร่างกายก่อนอาบน้ำ
ขอแนะนำให้คุณสาวๆนำผ้าขนหนูแห้ง โดยจับปลายผ้าทั้ง 2 ข้างไว้ แล้วเริ่มถูไปตามร่างกาย จุดละประมาณ 20 ครั้ง เพิ้อขจัดคราบไคล ฝุ่นละอองที่เพิ่งผจญมาทั้งวัน หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดไป ไม่จำเป็นต้องลงน้ำหนักมากหรือนานไปนะคะ เพราะผิวบอบบางอาจจะถูกทำร้ายำด้ค่ะ


2.ขัดผิวขณะอาบน้ำ
โดยแนะนำ Scrub สำหรับขัดทุกส่วนของร่างกาย เหมาะกับผิวที่ละเอียดอ่อนเท่านั้น อย่างหน้าอก หรือลำคอ ส่วนฟองน้ำ ใยบวบ หรือแปรงเหมาะกับผิวส่วนแขน ขา ไหล่และหลัง เพราะรองรับการขัดถูได้ดี สำหรับหินขัดแบบโบร่ำโบราณนั้นแน่นอนที่สุดควรใช้กับจุดที่แห้งกร้านอย่างข้อศอก เข่า หรือเท้าเท่านั้นค่ะ


3.นวดและฉีดน้ำ
ขณะอาบน้ำ เมื่อเกิดฟองสบู่สาวๆควรนวดไปมาวนเป็นวงกลมเพื่อผ่อนคลายและกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด หากใช้กับฝักบัวก็ให้เปิดแรงๆลงบนร่างกาย โดยวนไปมารอบอก ย้อนขึ้น-ลงบริเวณ แขน-ขา ก็จะช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี เปล่งปลั่งมากขึ้นค่ะ



ที่มาจาก นิตยสาร star fashion ฉบับที่ 183 คอลัมภ์ Healthy corner by taity


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

Eyes fashion

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



Eyes fashion


Eyes fashion
เติมความเปรี้ยวให้ตัวเองด้วยเทคนิคการติดขนตาปลอมสุดเก๋ ที่จะเปลี่ยนลุคให้คุณเป็นคนใหม่ในวันน่าเบื่อ

* ไล้อายแชโดว์สีเอิร์ธโทนอ่อนๆให้ทั่วเปลือกตา
* ใช้แปรงทาตาขนาดเล็กแต้มอายแชโดว์สีเหลืองทาไล่จากหัวตาไปตามแนวขอบตาล่างจนถึงกึ่งกลางตา ส่วนตาบนไล่สีจากหัวตาให้ฟุ้งขึ้นไปถึงชั้นพับตา
* ใช้ดินสอเขียนขอบตาสีดำ เริ่มเขียนจากบริเวณหางตา เขียนทั้งขอบตาบนและล่างให้เส้นมีความยาวประมาณ 2 ใน 3 ของรูปตา
* ดัดขนตาให้มีความงอนใกล้เคียงกับขนตาปลอม แล้วปัดมาสคาร่าบางๆ
* ทากาวที่ขนตาปลอม รอสักครู่ให้กาวเซ็ตตัว แล้วเริ่มติดจากกึ่งกลางตาก่อนแล้วตามด้วยหัวตาและหางตา ที่สำคัญต้องพยายามติดให้ชิดขอบตามากที่สุด
* ทาลิปสติกสีส้มสดให้ทั่วริมฝีปาก แล้วปัดแก้มด้วยบลัชออนสีพีชเบาๆ

Shu Uemura: Rough Unlimited # Orange (890.-)
False Eyelashes # Lucent Sun (750.-)




Eye’s Tools

ขนตาปลอม
เทรนด์การติดขนตาปลอมกำลังฮอตฮิตอย่างแรง หลังจากที่ชู อูเอมูระเปิด โตเกียว แลชบาร์ ในนิวยอร์คเมื่อปี 2005 ทั้งมาดอนน่าและซุปเปอร์สตาร์ในฮอลลีวู้ดต่างมาสั่งทำขนตาปลอมจนเป็นกระแสนิยมไปทั่วโลก รวมถึงเมืองไทยก็อินไปกับเขาด้วย
เพื่อให้ไม่ตกยุค ลองหาขนตาปลอมที่ตรงกับความต้องการไว้สักคู่ ถ้าอยากเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงตาดูหวานหรือขับเน้นให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น ควรใช้แบบเพิ่มความหนาและเรียวยาวที่พลิ้วไหวเป็นธรรมชาติเหมือนขนตาจริง
ถ้านึกอยากเปรี้ยวหรือไปงานปาร์ตี้ลองเลือกขนตาที่มีดีไซน์เก๋ๆ เช่น ขนตามีสีสัน หรือใช้วัสดุแปลกใหม่ ล่าสุดมีดีไซน์ที่ไม่เหมือนใครของ ชวารอฟสกี้ที่ใช้คริสตัลมาประดับบนขนตาปลอมได้ตามใจชอบ

Shu Uemura: Yellow Flash (750.-), Dazzling Diamond (900.-), Blunt Blue (1,790.-), Crystal Set (1,200.-), Velvet Feather (2,000.-)


มาสคาร่า
ต้องการขนตาลักษณะแบบไหนให้สังเกตหัวแปรงเป็นหลัก หัวแปรงโค้งจะช่วยให้ขนตางอนขึ้น ถ้าอยากเพิ่มความหนาต้องเลือกหัวแปรงอ้วนและหนา ส่วนหัวแปรงเล็กเส้นขนน้อย เหมาะกับสาวที่ต้องการขนตาแลดูเป็นธรรมชาติ บางยี่ห้อก็มี 2 ด้านทั้งเพิ่มความยาวและความหนาได้ในแท่งเดียว หรือถ้าชอบปัดขนตาล่างเขาก็มีมาสคาร่าสำหรับปัดขนตาล่างโดยเฉพาะอีกด้วย
SSD Recommend: DiorShow Waterproof Black by Night (1,150.-)


ที่ดัดขนตา
หากต้องการให้ขนตางอนงามการปัดมาสคาร่าเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องใช้ที่ดัดขนตาควบคู่กันด้วยถึงสวยครบสูตร การเลือกที่ดัดขนตาควรเลือกดูยางบริเวณที่หนีบ ให้ไม่นุ่มหรือแข็งเกินไป ที่สำคัญบริเวณส่วนโค้งของที่หนีบ ควรโค้งเข้ารูปกับกระบอกตาเพื่อให้สามารถหนีบขนตาได้ครบในครั้งเดียว โดยไม่ทำให้ขนตาหักหรือขาด
ควรทำความสะอาดที่ดัดขนตาทุกสัปดาห์ วิธีง่ายๆเพียงใช้สำลีชุบน้ำอุ่น เช็ดให้ทั่ว โดยเฉพาะส่วนที่เป็นยางเพราะเป็นบริเวณที่มีร่องรอยความมันและสีของอายแชโดว์มากที่สุด
SSD Recommend: M.A.C Lash Curler (650.-)






อายไลเนอร์
สาวเอเชียมักมีดวงตาไม่โตนัก ผู้ช่วยเพิ่มความกลมโตและคมชัดที่นิยมกันสุดๆ คือ
ดินสอเขียนขอบตา
ควรเลือกเนื้อดินสอที่ไม่แข็งเกินไปไม่อย่างนั้นเวลาเขียนอาจทำให้บริเวณขอบตาช้ำได้ แต่นิ่มเกินไปก็ใช่ว่าจะดีเพราะจะทำให้เขียนยาก
ข้อดีของดินสอเขียนขอบตา คือ เขียนง่าย เส้นที่ได้ดูเป็นธรรมชาติกว่าอายไลเนอร์แบบน้ำ

Tip: หากดินสอเขียนขอบตามีเนื้อแข็งเกินไป ให้แตะปลายดินสอกับมอยส์เจอไรเซอร์ก่อนลงมือเขียน หรือหากเนื้อดินสอนิ่มเกินไป ให้แช่ดินสอไว้ในตู้เย็นสักพักก่อนใช้ จะช่วยให้เนื้อดินสอแข็งและเขียนง่ายขึ้น
SSD Recommend: NARS Eyeliner Pencil Black Moon (800.-)



อายไลเนอร์ชนิดน้ำ
เปลี่ยนลุคจากสาวธรรมดาเป็นสาวฮิปได้ง่ายๆ เพียงกรีดอายไลเนอร์ชนิดน้ำที่ขอบตาบนให้เป็นเส้นใหญ่ เน้นว่าเส้นควรมีความเฉียบคม อาจยากสำหรับมือใหม่ ให้ฝึกเขียนบ่อยๆไม่นานก็เขียนได้สวยอย่างโปร
SSD Recommend: Estee Lauder Double Wear Zero – Smudge Liqiude Eyeliner (1,100.-)




อายไลเนอร์ชนิดครีมหรือเจล
สาวๆอยากได้เส้นแบบไหนสามารถคอนโทรลได้ ไม่ว่าจะคมเข้มหรืออ่อนหวาน เส้นใหญ่หรือเส้นเล็ก อายไลเนอร์แบบนี้ต้องใช้คู่กับพู่กันปลายแบนสำหรับเขียนขอบตาโดยเฉพาะ

Tip: ถ้ามือไม่นิ่งพอแนะนำให้พู่กันแตะอายแชโดว์ชนิดครีมหรือเจล จุดตามแนวขนตาไว้ 3 จุด คือ หางตา กลางตา และหัวตา แล้วจึงลากเส้นเชื่อมแต่ละจุดเข้าด้วยกัน
SSD Recommend: Laura mercier Cavier Liner # Black, Indigo (950.-), Smoky Eyeliner Brush (950.-)


แปรงทาตา
สาวๆควรมีแปรงทาตาประจำตัวสักคนละ 1 ด้าม ไม่ใช่ของแถมในตลับเป็นแบบไหนก็ใช้ไปอย่างนั้น ควรเลือกแปรงที่จับถนัดมือและมีขนแปรงอ่อนนุ่มทำจากขนสัตว์ เช่น ขนม้า ขนแพะ ขนกระรอก ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นการทรมานสัตว์ เพราะเขาใช้ขนส่วนหางของสัตว์ที่ผลัดขนตามธรรมชาติเท่านั้น
แปรงทาตามีให้เลือกหลายขนาดขึ้นอยู่กับหน้าที่ เช่น แปรงขนาดใหญ่ ใช้ลงสีอายแชว์โดว์บริเวณเปลือกตาและปัดไฮไลท์ แปรงขนาดเล็กใช้ลงสีอายแชโดว์บริเวณเปลือกตาและเกลี่ยหัวคิ้ว
SSD Recommend: Paul & Joe Eye Color Brush L (950.-), Color Brush S (720.-)





Get the Smoky Eye

ลงสีอายแชโดว์
1. เริ่มจากลงสีพื้นโดยใช้เฉดสีที่อ่อนที่สุด (เลือกสีโทนเทา/น้ำตาล/ดำตามใจชอบ) ให้ทั่วเปลือกตา
2. ตามด้วยสีเข้มปานกลางบริเวณชั้นพับตา
3. ปิดท้ายด้วยการเพิ่มความชัดที่ขอบตาล่างและเปลือกตาบนเหนือขอบตาด้วยอายแชโดว์สีเข้มที่สุด จากนั้นเกลี่ยสีจากหางตาเข้าหากึ่งกลางตาให้เนียนเรียบไปถึงรอยพับตา
เขียนอายไลเนอร์
1. ดึงผิวหนังบริเวณหางตาขึ้นเล็กน้อย แล้วใช้พู่กันแตะอายไลเนอร์ชนิดครีมทาตามแนวเส้นขนตาบนให้คมชัด โดยเน้นเส้นหนาบริเวณหางตา
2. ตามด้วยการดัดและปัดขนตาให้งอนงาม
แก้มและปาก
1. ปัดแก้มเบาๆจากบริเวณโหนกแก้มเฉียงขึ้นไปที่ขมับ
2. เติมลิปสติกสีแดงอมส้มนิดๆเพื่อความเซ็กซี่



ที่มาจาก สุดสัปดาห์


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


สูตรพอกหน้า…เพื่อผิวขาวสว่างใส

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



สูตรพอกหน้า…เพื่อผิวขาวสว่างใส


สูตรพอกหน้า…เพื่อผิวขาวสว่างใส







มีสูตรเด็ดเคล็ดลับจากพืชพรรณธรรมชาติที่สาวๆ สามารถหาได้ง่ายๆ และทำเองได้เพื่อใบหน้าใสๆ ไร้สิว ผิวเกลี้ยงเกลาแต่ยังไงก็ตาม ขอเตือนก่อนสำหรับสาวที่มีผิวที่แพ้ง่ายอาจต้องระวังกันซักนิด

ก่อนจะนำสูตรใสปิ๊งนี้ไปโบ๊ะหน้าของคุณ อาจจะต้องทดสอบกันก่อนโดยนำส่วนผสมเพียงเล็กน้อยมาแตะทีบางส่วนของใบหน้า ถ้าไม่รู้สึกคัน หรือแสบร้อนมากๆ ก็เป็นอันว่าใช้ได้

ส่วนผสมสำหรับ 1 หน้า

1. สตอรเบอรี่ 2 ลูก
2. แตงกวาผ่าครึ่ง 1 ซีก
3. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
4. น้ำขิงสดควรคั้นจากราก

นำส่วนผสมทั้งหมดมามิกซ์รวมกัน โดยอาจนำเข้าเครื่องปั่น เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วให้นำมาพอกทั่วทั้งใบหน้า ยกเว้นบริเวณรอบดวงตาเป็นเวลาประมาณ 10 นาที อาจรู้สึกแสบนิดๆ แต่ถ้าแสบมากมายให้รีบล้างออกทันที ถ้าไม่เป็นไรเมื่อทิ้งไว้ครบ 10 นาทีแล้วให้ล้างออก อาจทำเป็นประจำสัปดาห์ละครั้งหน้าก็จะเกลี้ยงเกลา เบา สบายใจ สาวหน้าใสทุกคน

ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


3 ลุคสวยในที่ทำงาน

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



3 ลุคสวยในที่ทำงาน


3 ลุคสวยในที่ทำงาน

แต่งหน้าไปทำงานไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะแต่งอย่างไรเพื่อเสริมบุคลิกให้ดูดียิ่งขึ้น มาลองดูกันดีกว่า

Intent Meeting
* เกลี่ยอายแชโดว์สีเทาควันบุหรี่ให้ทั่วเปลือกตา แล้วกรีดอายไลเนอร์สีดำทั้งขอบตาบนและล่าง ช่วยให้ดูเป็นสาวมั่นและจริงจังในที่ประชุม แต่เพื่อไม่ให้ตาดูดุจนเกินไปอาจแตะอายแชโดว์สีขาวที่หัวตานิดๆด้วย
* ปัญหาริมฝีปากคล้ำแก้ไขได้ เพียงลงคอนซีลเลอร์สีโทนส้มบางๆให้ทั่วริมฝีปาก แล้วซับด้วยแป้งฝุ่น ก่อนทาทับด้วยลิปสติกสีนู้ดที่เข้มกว่าสีผิวสัก 1 – 2 เฉดสี
* ใช้แปรงแตะบลัชออนสีชมพู แล้วเคาะแปรงที่บริเวณหลังมือเบาๆ เพื่อให้ฝุ่นสีที่เกินหลุดออกไป ก่อนปัดแก้ม จะดูใสระเรื่อเป็นธรรมชาติ

Tip
การใช้อายแชโดว์สีเดียวก็ทำให้ดวงตาดูมีมิติได้ โดยการเอียงพู่กัน 45 องศาแล้วเกลี่ยอายแชโดว์ลงบริเวณชิดขอบตาให้มีสีเข้มที่สุด จากนั้นค่อยๆไล่สีให้อ่อนลงเรื่อยๆ เมื่อลืมตาแล้วจะเห็นเนื้อสีเหนือชั้นพับตาเพียงบางๆเท่านั้น

Laura Mercier
Illuminating Quad – Cheeck color (1,700.-)
Lip Stain # Shy Pink (850.-)
Mineral Eye Powder # Smolder Bronze (900.-)

Natural Look
* เวลาไปพบลูกค้าควรเลือกสีอายแชโดว์ที่ดูแล้วสบายตา เช่น สีเอิร์ทโทน หรือสีนู้ด จะช่วยให้บุคลิกดูนิ่งน่าเชื่อถือ แต่ไม่เข้มขรึมเกินไป
* เขียนขอบตาบนและล่างด้วยดินสอสีน้ำตาลอ่อน
* ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีชมพูเบาๆ แล้วปัดบรอนเซอร์ปิดทับอีกครั้ง เพื่อให้ใบหน้าดูอบอุ่นสบายตา
* ปิดท้ายด้วยลิปกลอสสีน้ำตาลอมส้ม ให้ริมฝีปากดูอิ่มเอิบชวนมอง

Tip
เทคนิคง่ายๆในการใช้ดินสอเขียนขอบตา เพียงค่อยๆใช้พู่กันจุดแทรกบริเวณขนตาไล่ไปเรื่อยๆจนทั่วทั้งขอบตา นอกจากช่วยให้เส้นเป็นธรรมชาติยังดูไม่คมเกินไปอีกด้วย
Elizabeth Arden
Bronzing Shimmer Powder # Golden (1,450.-)
Color Intrigue Gel Eyeliner Duo # Deep Brown/Hot Bronze (980.-)
Sheer Tint Lip Balm # Sun Bronze (730.-)

Chic in the Office
* ลงอายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อน เกลี่ยให้สีเรียบเนียนไปกับเปลือกตาอย่างเบามือ เหลือไว้เพียงประกายนิดๆที่ผสมอยู่ในเนื้ออายแชโดว์ ตามด้วยชิมเมอร์แตะที่หัวตาอีกเล็กน้อย
* ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีพีชบางๆ หากเผลอลงสีหนักมือไปให้ใช้ฟองน้ำชุบรองพื้นเล็กน้อยเกลี่ยบางๆให้ทั่วแก้ม แล้วปัดแป้งฝุ่นทับอีกที
* ลุคนี้จุดเด่นอยู่ที่ริมฝีปากสีแดง สำหรับสาวผิวขาวควรเลือกสีแดงสดหรือแดงสว่างๆ จะทำให้ใบหน้าสดใส ส่วนสาวผิวคล้ำใช้สีแดงเข้มหรือแดงมะเหมี่ยวจะดีกว่า

Tip
ทำงานในออฟฟิศก็เหนื่อยอยู่แล้ว ขอเปลี่ยนบรรยากาศให้ตัวเองดูเซ็กซี่ขี้เล่นสักหน่อยด้วยลิปสติกสีแดง ที่สำคัญควรลงสีตาและแก้มให้เบาสุดๆ ไม่อย่างนั้นอาจกลายเป็นสาวน่ากลัวแทน
YSL
Lip Twins #11 – Red Crystal (1,090.-)
Ombres Duolumieres-Eyeshadow #1 Heavenly Beige/ Astral Brown (1,500.-)
Touche Blush #4 – Apricot (1,640.-)

Column: Beauty U Can Touch No.589 (16 August 2007)


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

6 วิธีรักษาความนับถือตัวเองในออฟฟิศ

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



6 วิธีรักษาความนับถือตัวเองในออฟฟิศ


6 วิธีรักษาความนับถือตัวเองในออฟฟิศ



การปกป้องความคิดของตัวเราเองหรือการปกป้องผลงานที่สร้างสรรค์ท่ามกลางคำวิจารณ์ของหัวหน้าและ เพื่อนร่วมงาน นับเป็นหนึ่งในสถานการณ์ล่อแหลม เส้นบางๆ ที่แบ่งแยกตัวคุณระหว่างการได้รับยกย่องว่าเก่ง หรือหลงตัวเอง อีโก้จัด คือการแสดงออก ถ้าเรารู้จักใช้มันให้เป็น คุณจะได้ทั้งงานที่ตัวเองภาคภูมิใจ และสามารถรักษาจุดยืนได้อย่างยอดเยี่ยม และนี่คือแนวทางที่เราอยากแนะนำเพื่อให้คุณเป็นดาวเด่นที่มีคนชื่นชม



ชัดเจนและมั่นใจกับตัวเอง สรุปกับตัวเองให้จบว่างานนี้คุณตั้งเป้าหมายไว้อย่างไร จุดยืนของตัวเองคืออะไร และมันดีอย่างไร คุณเชื่อและมีเหตุผลมากพอที่จะรองรับในสิ่งที่คิดหรือยัง คุณมีข้อมูลมากพอที่จะปกป้องตัวเองและงานจากการมองต่างมุมหรือยัง ถ้ายังพัฒนามันจนคุณมั่นใจ แล้วลุยเลย


ชัดเจน มั่นใจกับการกระทำ และคำพูด แม้จะเตรียมการมาดีพอ แต่การพูดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือคือสิ่งที่ต้องอาศัยทักษะและ ประสบการณ์ สำหรับมือใหม่สิ่งที่ดีที่สุดคือการซักซ้อมในแบบสมมุติเหมือน เล่นละคร ลองบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือมองตัวเองจากกระจก แล้วสังเกตดูว่าบุคลิกภาพของคุณดีพอหรือยัง คำพูดชัดเจน มั่นใจ และกระชับ เข้าใจง่ายไหม ถ้าไม่เข้าข้างตัวเอง วิธีการนี้จะทำให้คุณได้ขัดเกลาตัวเองก่อนลงสนาม และแน่นอนว่า คุณจะรู้สึกมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกถึง 30% ทีเดียว



เตรียมใจสำหรับคำวิจารณ์ สิ่งที่ต้องยอมรับคือต่างคนต่างความคิด ดังนั้นสิ่งที่คุณนำเสนอแบบไร้ช่องโหว่ อาจมีคนคิดปลีกย่อยและหาข้อติเตียน วิจารณ์ อย่าเสียกำลังใจ อย่าโกรธ เกลียดเขา เพราะแม้บางคนจะทำด้วยอคติ แต่ก็มีหลายคนที่ทำไปโดยเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ว่าเขาจะมาไม้ไหน คุณต้องรักษาภาพความเป็นกลางและฟังอย่างตั้งใจ ยิ่งมีสติมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งสามารถเคลียร์ข้อผิดพลาดที่พวกเขายกมาได้ดีเท่านั้น วิธีการที่ดีคือการยิ้มและค่อยๆ คิด ค่อยๆ พูดให้เนิบช้าลงสักนิดด้วยเสียงที่นุ่มนวลและเหตุผลมาตรฐานที่ไม่มีใครคัดค้าน คล้ายๆ กับที่บอกว่า โลกมีแรงโน้มถ่วง แอปเปิ้ลจึงตกลงพื้นนั่นแหละ



เตรียมใจสำหรับความผิดพลาด กล่าวกันว่า คนที่ไม่ทำผิดคือคนที่ไม่ทำอะไรเลย ดังนั้นมันจึงเกิดขึ้นได้เสมอที่คุณอาจได้รับความผิดหวังจากความผิดพลาด สิ่งแรกที่ต้องทำคือทำใจยอมรับ ในทุกสนามแข่งขัน ผู้ชนะ คือผู้ที่ลุกขึ้นเร็วที่สุดจากความผิดพลาด ดังนั้นถ้าคุณอยากแก้ตัวและมีบทสรุปแบบ Happy Ending คุณจึงต้องรีบได้คิดและออกตัวแก้ไข (ไม่ใช่ออกไขแก้ตัว) ในสิ่งที่พลาดอย่างกล้าหาญ มีจรรยาบรรณ ด้วยสติปัญญา ความอ่อนโยน และใจเย็น



เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส บางคนต่อสู้เพื่อตัวเองมาตลอดชีวิต แต่ไม่เคยชนะ บางคนแพ้มาตลอดชีวิตแต่กลับได้ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในโอกาสสำคัญ การเรียกความพ่ายแพ้ว่าเรื่องอับอาย หรือบทเรียน คือกุญแจ สำคัญ การมองย้อนไปแล้วนำความผิดพลาดของตัวเองมาพินิจพิจารณา รวมทั้งการหาคำแนะนำ หรือนำประสบการณ์ วิธีของผู้ได้รับความสำเร็จมาปรับใช้กับตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่ดีและทำให้คุณสามารถพัฒนาตัวเองได้รวดเร็ว ที่สำคัญต้องเปิดใจกว้าง และปรับเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการอย่างจริงจัง และจริงใจ กล้าลองผิดลองถูก และขัดเกลาตัวเอง แล้ววันหนึ่งคุณจะได้รับ ชัยชนะในโอกาสสำคัญ



เปลี่ยนวิธีการแต่ไม่เปลี่ยนตัวเอง ไม่มีสูตรสำเร็จในความสำเร็จ ที่ใช้ได้เสมอกัน เพราะทุกคนต่างกันด้วยพื้นฐานความคิด ครอบครัว ประสบการณ์ ดังนั้นการเลือกเปลี่ยนตัวเอง ต้องให้สอดคล้องกับบุคลิก ลักษณะ และข้อจำกัดในตัวคุณด้วย เช่นเดียวกับหนูซึ่งมองว่าราชสีห์นั้นยิ่งใหญ่ แต่ตัวเองกระจ้อยร่อย จะให้วางท่าสง่า ทำภูมิฐาน ก็ยิ่งชวนขบขัน แต่ถ้าใช้ความคล่องแคล่วในแบบเข้าไหนออกนั่นได้สะดวกโยธินมาพัฒนาให้ยอดเยี่ยม แม้แต่ราชสีห์ยังต้องพึ่งพิง เหมือนที่เราเคยอ่านในนิทานอีสป ดังนั้นสิ่งที่ต้องรักษาไว้เสมอคือจุดเด่นของตัวเอง รวมทั้งความคิดที่ค้ำจุนความเชื่อมั่น แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้คือจริต วิธีการแสดงออก ที่เหมาะสมกับภาษา







เรื่องจากนิตยสาร women plus


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...