วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

สวยสง่าอย่างไทย ด้วยชุดไทยพระราชนิยม

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



สวยสง่าอย่างไทย ด้วยชุดไทยพระราชนิยม


ชุดไทยพระราชนิยมถือกำเนิดขึ้นจากแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เพื่อต้องการให้สาวไทยมีชุดประจำชาติที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ต่างจากชาติอื่นๆ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ค้นคว้าเครื่องแต่งกายสมัยต่างๆ จากพระฉายาลักษณ์ของเจ้านายฝ่ายใน แล้วนำมาประมวลเข้ากับข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ พัฒนารูปแบบการตัดเย็บให้ทันสมัยขึ้น จากนั้นพระราชทานให้ผู้ใกล้ชิดแต่งเพื่อเผยแพร่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น



ปัจจุบันชุดไทยพระราชนิยมเป็นที่นิยมของบรรดาเจ้าสาวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าสาวที่ประกอบพิธีแต่งงานแบบไทย ซึ่งคุณเจ้าสาวสามารถเลือกสวยได้ตามใจจากชุดทั้ง 8 แบบดังต่อไปนี้



ชุดไทยเรือนต้น

ชุดนี้ตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมที่มีลายริ้วตามขวางหรือตามยาว หรืออาจใช้ผ้าเกลี้ยงแบบมีเชิง ผ้าซิ่นควรยาวจรดข้อเท้า ป้ายด้านหน้า ตัวเสื้อแยกชิ้นกับผ้าซิ่น ตัดเย็บโดยใช้ผ้าสีตามริ้วหรือเชิงซิ่น เลือกโทนสีเดียวกันหรือตัดกับสีผ้าซิ่นก็ได้ แขนเสื้อเป็นแบบสามส่วน ด้านหน้าผ่า มีกระดุม 5 เม็ด คอเสื้อกลมตื้นไม่มีขอบตั้ง

เลือกใช้เครื่องประดับเป็นเครื่องทองหรือเครื่องเพชรแบบฝรั่งก็ได้ ไม่ควรคาดเข็มขัด ชุดนี้เหมาะกับงานแบบลำลอง เช่น การตักบาตรในช่วงเช้า







ชุดไทยบรมพิมาน



นิยมใช้ผ้ายกไหมหรือผ้ายกทองแบบมีเชิง หรือผ้ายกทองทั้งตัวในการตัดเย็บ ซิ่นมีจีบข้างหน้ามีชายพก ความยาวจรดข้อเท้า ตัวเสื้อเข้ารูปแขนกระบอก คอตั้งติดคอ ผ่าหลัง เสื้ออาจจะเย็บติดกับซิ่นหรือเป็นคนละชิ้นก็ได้



ชุดนี้ต้องคาดเข็มขัด ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เหมาะสำหรับงานพิธีที่เป็นทางการ เช่น การเข้ารับพระราชทานสมรส















ชุดไทยจิตรลดา





ชุดนี้นิยมตัดเย็บโดยใช้ผ้าไหมเกลี้ยงแบบมีเชิง หรืออาจใช้ผ้าทอยกดอกทั้งตัวก็สวยงามไปอีกแบบ ผ้าซิ่นเป็นแบบป้ายหน้า ยาวจรดข้อเท้า ตัวเสื้อแยกชิ้นกับผ้าซิ่น ตัดเย็บโดยใช้ผ้าสีพื้นเข้ากับสีซิ่น แขนเสื้อเป็นแบบแขนกระบอก ผ่าอก มีกระดุม 5 เม็ด ลักษณะทั่วไปคล้ายกับชุดไทยเรือนต้น แต่ต่างกันตรงคอเสื้อที่มีขอบตั้ง



เลือกใช้เครื่องประดับน้อยชิ้น อาจใช้เพียงต่างหูและสร้อยคอ ไม่ต้องคาดเข็มขัด ไม่นิยมประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชุดนี้เหมาะกับงานพิธีที่ค่อนข้างเป็นทางการ











ชุดไทยจักรพรรดิ

ชุดนี้เป็นชุดของสตรีสูงศักดิ์ในสมัยโบราณ ปัจจุบันใช้เป็นชุดเจ้าสาวสำหรับงานกลางคืน มีลักษณะคล้ายกับชุดไทยจักรีแต่หรูหราและมีพีธีรีตองมากกว่า ห่มสไบแพรทึบสีตัดกับซิ่นชั้นหนึ่งก่อนแล้วจึงห่มทับด้วยสไบจับจีบปักดิ้นทองสวยงาม ซิ่นตัดเย็บจากผ้าไหมหรือผ้ายกทองแบบมีเชิง จับจีบด้านหน้า มีชายพก เลือกใช้เครื่องทองหรือเครื่องเพชรตามความเหมาะสม ต้องคาดเข็มขัด











ชุดไทยจักรี



ชุดนี้ห่มด้วยสไบผ้าไหมแบบมีชายเดียว ปักดิ้นทองหรือไม่ปักก็ได้ ชายสไบคลุมไหล่ด้านซ้าย ทิ้งชายด้านหลัง ยาวตามสมควร จะเย็บติดกับซิ่นเป็นท่อนเดียวกันหรือจะห่มสไบต่างหากก็ได้













ชุดไทยศิวาลัย

เป็นชุดของหญิงสาวบรรดาศักดิ์ในสมัยโบราณ มีลักษณะเหมือนกับชุดไทยบรมพิมานแต่ห่มสไบทับ โดยใช้สไบปักลายแบบชุดไทยจักรพรรดิ แต่ไม่ต้องมีสไบแพรรองพื้นก่อน ตัวเสื้อตัดเย็บโดยใช้ผ้าไหมสีทองหรือสีงาช้าง แขนยาว คอกลมมีขอบตั้ง ผ่าหลัง ซิ่นตัดเย็บด้วยผ้าไหมยกดิ้นทองยาวคลุมข้อเท้า มีจีบด้านหน้า มีชายพก



เลือกสวมเครื่องประดับเป็น สร้อยคอ รัดแขน สร้อยข้อมือ คาดเข็มขัด ชุดนี้เหมาะกับงานพิธีการเต็มยศ หรืองานฉลองสมรสช่วงค่ำ











ชุดไทยอมรินทร์

ชุดนี้แบบเหมือนกับชุดไทยจิตรลดา ต่างกันตรงที่ใช้ผ้าที่หรูหรากว่าในการตัดเย็บ นิยมใช้ผ้าไหมที่มีทองแซมหรือผ้ายกทองทั้งตัว ตัวเสื้อคนละชิ้นกับซิ่น



เลือกใช้เครื่องประดับเป็นเครื่องทองหรูหรา หากใช้ในงานพิธีต้องประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ไม่ต้องคาดเข็มขัด ชุดนี้เหมาะกับงานพิธีตอนค่ำ











ชุดไทยดุสิต

ตัวเสื้อเป็นแบบเข้ารูป คอปาด ไม่มีแขน ผ่าด้านหลัง ปักประดับเป็นลายทั่วตัวด้วยไข่มุกหรือลูกปัด ตัวเสื้ออาจเย็บติดหรือแยกคนละท่อนกับซิ่นก็ได้ ซิ่นตัดเย็บด้วยผ้ายกไหม ผ้ายกทองหรือผ้ายกเงิน จับจีบด้านหน้า มีชายพก



เลือกใช้เครื่องประดับแบบไทยหรือแบบตะวันตกตามชอบ ต้องคาดเข็มขัด ชุดนี้นิยมใช้ในงานช่วงค่ำแทนชุดราตรีแบบตะวันตก













We note


สำหรับคุณเจ้าสาวที่เลือกสวมชุดไทยพระราชนิยมในวันแต่งงาน เมื่อได้ชุดเรียบร้อยแล้ว ห้ามนำไปซักแห้งเด็ดขาด เพราะจีบรูด เครป การกลึงลูกไม้ งานปัก แม้จะทำเรียบร้อยแต่ก็ไม่แข็งแรงมาก เมื่อผ่านการซักอาจทำให้ลูกไม้ที่กลึงเบาๆขาด ลูกปัดหลุด ผ้าเหี่ยว หมดสวยก่อนถึงวันงาน
รองเท้าที่เหมาะสมกับชุดไทยทุกชุด คือ รองเท้าหุ้มส้นหัวแหลม สีทอง สีเงิน สีงาช้าง หรือโทนสีอ่อน เช่นสีเบจ สีขาว ซึ่งสีเหล่านี้จะทำให้ดูหรูหราสง่างาม
เครื่องประดับสำหรับชุดไทย ควรเป็นเครื่องประดับทองคำหรือเพชรแท้เพราะจะช่วยเสริมให้ชุดดูสวยงามขึ้นกว่าการสวมเครื่องประดับเลียนแบบ
ผ้ายก คือ ผ้าไหมที่ทอลายในตัว โดยใช้เส้นพุ่งพิเศษเป็นดิ้นเงินดิ้นทอง ทอกันแพร่หลายในภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และภาคใต้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผ้าชนิดนี้ใช้สวมใส่เป็นประเพณีในราชวงศ์สยาม ตั้งแต่สมัยอยุธยาในศตวรรษที่ 14
ผ้ายกทอง คือ ผ้าที่ทอลวดลายให้สูงกว่าพื้นผ้า โดยมีเส้นยืนและเส้นพุ่งขัดสานกันตามปกติ แต่จะมีเส้นพุ่งพิเศษเป็นดิ้นทองระหว่างเส้นยืน ทำให้ปรากฏเป็นลวดลายขึ้นมา ในอดีตผ้ายกทองเป็นผ้าที่บุคคลระดับสูงตั้งแต่ พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์มักใช้ทรงภายในราชสำนักมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยและอยุธยา สำหรับเหล่าขุนนาง จะมีสิทธินุ่งได้ก็ต่อเมื่อได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์เท่านั้น



We recommend
ในการตัดหรือเตรียมชุดไทย เจ้าสาวควรเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างน้อยประมาณหนึ่งอาทิตย์ ในการเลือกชุด ควรพาเจ้าบ่าวไปเลือกด้วย เพราะต้องคำนึงถึงความสูงและโทนสีของชุดเจ้าบ่าว



สถานที่ตัดและเช่าชุดไทยพระราชนิยม
– Fannony Bridal โทร.0-2434-8206 ,0-6800-7878
– Emotion โทร. 0-2938-2671,0-9665-3018


สถานที่จำหน่ายผ้าไหมลายสวย
– ร้านจิตรลดา สาขาพระที่นั่งวิมานเมฆ โทร. 0-2280-1538 สาขาโอเรียลเต็ล โทร.0-2266-0186-9 ต่อ 2031
– ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร โทร.0-3536-6666-7
- ศูนย์ศิลปาชีพ 904 โทร. 0-2243-9192 ต่อ 118
- ธนกิจผ้าไทย จ.สระบุรี โทร.0-3627-5222-5
เอื้อเฟื้อชุดไทยพระราชนิยม Fanony Bridal
ข้อมูลบางส่วนจาก กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี









ขอบคุณบทความจากนิตยสาร we magazine


ที่มา mThai


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...